(กุมภาพันธ์ 2568) – เดินหน้าสานต่อการจัดงานเพื่อตอบโจทย์ธุรกิจเทคโนโลยีและดิจิทัลหลังจากประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากกับการจัดงานในปี 2567 ที่ผ่านมา พร้อมลุยจัด DigiTech ASEAN Thailand และ AI Connect 2025 งานแสดงสินค้าและสัมมนาด้านเทคโนโลยีและดิจิทัลแห่งอาเซียน ภายใต้แนวคิด “Digital Solutions for Business” เพื่อสร้างเวทีทางธุรกิจและความรู้ที่จัดขึ้นเพื่อตอบรับความต้องการด้านเทคโนโลยีที่มีมากขึ้นเพื่อร่วมสร้างธุรกิจยุคใหม่กำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 19-21 พฤศจิกายน 2568 ณ ฮอลล์ 7-8 อิมแพ็ค เมืองทองธานี

ในปี 2567 งาน DigiTech ASEAN Thailand และ AI Connect  มีผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 8,600 รายจาก 44 ประเทศทั่วโลกและมีผู้ร่วมแสดงสินค้า 350 บริษัทและแบรนด์ชั้นนำจาก 10 ประเทศที่มาร่วมนำเสนอโซลูชันเทคโนโลยีดิจิทัลล่าสุด โดยภายในงานมีการประชุมธุรกิจระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายเกิดขึ้นมากกว่า 1,500 นัดหมายพร้อมกับงานสัมมนาโดยกูรูชั้นนำด้านเทคโนโลยีและดิจิทัลกว่า 90 รายครอบคลุมหัวข้อที่น่าสนใจด้านเทคโนโลยีดิจิทัลกว่า 70 หัวข้อตลอด 3 วันการจัดงาน

และในปีนี้ DigiTech ASEAN Thailand และ AI Connect 2025 จัดงานเพื่อสนับสนุนธุรกิจเทคโนโลยีและดิจิทัลในการเป็นเวทีทางธุรกิจสำหรับผู้ให้บริการโซลูชันมาร่วมนำเสนอเทคโนโลยีล่าสุดเพื่อธุรกิจยุคใหม่ซึ่งเป็นเวทีทางธุรกิจแบบตัวต่อตัวที่ผู้ให้บริการเทคโนโลยีได้มาพูดคุยธุรกิจกับผู้ซื้อที่มีศักยภาพครอบคลุม 6 กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยี ได้แก่ ซอฟต์แวร์เพื่อธุรกิจ ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ อีคอมเมิร์ซและการตลาดดิจิทัล ดาต้าและคลาวด์ สมาร์ทโซลูชันและไอโอที รวมไปถึงอีกหนึ่งโซลูชันที่กำลังเป็นที่นิยมในการทำธุรกิจยุคใหม่อย่างปัญญาประดิษฐ์

งาน DigiTech ASEAN Thailand และ AI Connect ร่วมมือกับหน่วยงานชั้นนำพร้อมผลักดันธุรกิจเทคโนโลยีและดิจิทัลให้ก้าวสู่ระดับภูมิภาค อาทิ สมาคมปัญญาประดิษฐ์ประเทศไทย สมาคมผู้ประกอบการปัญญาประดิษฐ์ประเทศไทย สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) สมาคมส่งเสริมนวัตกรรมเทคโนโลยีไซเบอร์ เขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ประเทศไทย สมาคมไทยไอโอที และอีกมากมาย พร้อมนำทัพแบรนด์ชั้นนำด้านเทคโนโลยีและดิจิทัล บริษัท วีบิกซ์ อินโนเวชั่น จำกัด บริษัท ซิฟท์ อนาไลติคส์ กรุ๊ป (ไทยแลนด์) จำกัด บริษัท เนโอ ไทย เอเชีย จำกัด บริษัท ซิสทรอนิกส์ จำกัด บริษัท คอนเนคเอ็กซ์ จำกัด บริษัท อูซู จำกัด บริษัท คินโตน (ไทยแลนด์) จำกัด และอีกมากมาย

คุณพีรยาพัณณ์ พงษ์สนาม ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายโครงการ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า “DigiTech ASEAN Thailand และ AI Connect 2025 เป็นงานที่มุ่งเน้นการสร้างโอกาสทางธุรกิจ ความร่วมมือ พันธมิตร และเครือข่ายสำหรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและดิจิทัลระดับโลกและยังเป็นเวทีให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมได้แลกเปลี่ยนมุมมองและอัปเดตเทรนด์ล่าสุด รวมถึงโอกาสทางการตลาดในอนาคต”

ประเทศไทยมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในภาคดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยได้รับการสนับสนุนจากนโยบายภาครัฐและประชากรที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี คาดว่าเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศจะมีสัดส่วนถึง 30% ของ GDP ภายในปี 2573 โดยได้รับแรงผลักดันจากการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัลที่รวดเร็ว การเกิดขึ้นของเทคโนโลยีใหม่ ๆ และความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับเครื่องมือและโซลูชันดิจิทัล ปัจจุบันมูลค่าของเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทยอยู่ที่ประมาณ 30,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ปี 2566)

ประเทศไทยมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมากกว่า 57 ล้านคน หรือคิดเป็น 82% ของประชากรทั้งหมด โดยมีอัตราการเข้าถึงโทรศัพท์มือถือเกิน 130% ตลาดปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในประเทศไทยกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 200 ล้านเหรียญสหรัฐ (ปี 2566) และคาดว่าจะเติบโตที่อัตรา CAGR 20%-25% จนถึงปี 2570 ในขณะเดียวกัน ภาค E-Commerce กำลังเติบโตในอัตรา 15% ต่อปี

ประเทศไทยยังคงผลักดันนโยบายเศรษฐกิจ 4.0 โดยมุ่งเน้นที่การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลและการใช้คลาวด์ ส่งผลให้จำนวนศูนย์ข้อมูล (Data Center) เติบโตขึ้นกว่า 50% ในช่วงสามปีที่ผ่านมา ทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีศูนย์ข้อมูลมากที่สุดเป็นอันดับที่ 3 ในอาเซียน ในปี 2567 มีโครงการลงทุนศูนย์ข้อมูลมากกว่า 30 โครงการที่ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) คิดเป็นมูลค่ากว่า 100,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีการลงทุนในภาคส่วนนี้อีกกว่า 260,000 ล้านบาท ที่อยู่ในแผนดำเนินการในช่วงสามปีข้างหน้า

โดยรวมแล้ว ภาคเทคโนโลยีในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว เนื่องจากธุรกิจต่างๆ มุ่งเน้นไปที่การนำโซลูชันดิจิทัลมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ความสามารถในการทำกำไร และความสามารถในการแข่งขัน ตลาดซอฟต์แวร์สำหรับ SME เพียงอย่างเดียวคาดว่าจะเติบโตที่อัตราการเติบโตต่อปีแบบทบต้น (CAGR) ที่ 7% โดยมีมูลค่าถึง 12.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ตลาด AI คาดว่าจะเติบโตที่ CAGR 18% ภายในปี 2575 ตัวเลขคาดการณ์เหล่านี้สะท้อนถึงการเติบโตที่แข็งแกร่งของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งได้รับแรงหนุนจากนโยบายสนับสนุนของภาครัฐที่กระตุ้นให้ธุรกิจเร่งปรับใช้เทคโนโลยีดิจิทัล

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา DigiTech ASEAN Thailand และ AI Connect ได้จัดขึ้นเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการเติบโตของตลาดในธุรกิจเทคโนโลยีและดิจิทัล คุณปภัสรินทร์ วงษ์ภานุทรัพย์ Head of Recruitment Services  บริษัท โปรทอส เทคโนโลยี จำกัด กล่าวว่า “นี่เป็นปีที่สามติดต่อกันที่เราเข้าร่วมงาน DigiTech ASEAN Thailand และทุกปีเราสามารถขยายฐานลูกค้าและพาร์ทเนอร์ได้มากขึ้น ปีนี้เรายังเห็นถึงความสนใจจากนานาชาติเพิ่มขึ้น ทำให้งานมีความคึกคักเป็นพิเศษ”

น้ำยา วายุภาพ กรรมการผู้จัดการ  บริษัท คินโตน (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า “เรามีส่วนร่วมในงานนี้ทุกปี และเห็นได้ชัดว่าความสนใจในการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลในตลาดไทยกำลังเติบโตขึ้น ผมอยากเชิญชวนทุกท่านให้รู้จักกับ Kintone เพื่อพบกับโซลูชันที่เรานำเสนอ”

DigiTech ASEAN Thailand และ AI Connect ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ ร่วมกับพันธมิตรและองค์กรสนับสนุนทั้งในประเทศและต่างประเทศจำนวนมากและในการจัดงาน DigiTech ASEAN Thailand และ AI Connect 2025 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-21 พฤศจิกายน 2568 ณ ฮอลล์ 7-8 อิมแพ็ค เมืองทองธานี

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดงานได้ที่ www.digitechasean.com

คุณสุรีรัตน์ คล้ายมณี
ผู้จัดการฝ่ายการตลาด

โทร :  02-833-6336
อีเมล: sureratk@impact.co.th
เว็บไซต์:  www.digitechasean.com

บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด
ชั้น 10 อาคารบางกอกแลนด์
เลขที่ 47/569-576 หมู่ที่ 3 ถนนป๊อปปูล่า 3
ตำบลบ้านใหม่ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120

กลับมาอย่างยิ่งใหญ่ DigiTech ASEAN Thailand 2024 & AI Connect 2024
สุดยอดงานด้านเทคโนโลยีและดิจิทัลแห่งอาเซียน เพื่อติดอาวุธให้ทุกธุรกิจพร้อมลุยในปี 2025

บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ประกาศจัดงาน DigiTech ASEAN Thailand 2024 & AI Connect 2024 งานแสดงสินค้าและสัมมนาด้านเทคโนโลยีและดิจิทัลแห่งอาเซียน ยกทัพผู้ให้บริการ Business Solution และ AI ชั้นนำกว่า 350 แบรนด์ พร้อมกูรูด้านเทคโนโลยีและดิจิทัลมาร่วมอัปเดตเทรนด์ เพื่อติดอาวุธเตรียมความพร้อมธุรกิจในปี 2025 โดยงานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-22 พฤศจิกายน 2567 ณ อาคาร 6 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี คาดมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 6,000 คน

คุณพีรยาพัณณ์ พงษ์สนาม ผู้ช่วยผู้อำนวยการ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า ในปี 2025 Digital Transformation ยังเป็นความท้าทายที่ทุกธุรกิจต้องเผชิญ และเพื่อผลักดันให้ภาคธุรกิจเห็นความสำคัญของการใช้เทคโนโลยีในการเพิ่มศักยภาพให้องค์กรพร้อมรับความท้าทายดังกล่าว บริษัทฯ จึงได้จัดงาน DigiTech ASEAN Thailand 2024 & AI Connect 2024 งานแสดงสินค้าและสัมมนาด้านเทคโนโลยีและดิจิทัลแห่งอาเซียน ซึ่งจะครอบคลุมทั้งโซลูชันเทคโนโลยีธุรกิจ เวทีสัมมนาอัปเดตเทรนด์ปี 2025 การเจรจาธุรกิจ และอีกหลายกิจกรรมน่าสนใจ เรียกได้ว่า มางานนี้ ครบ จบ ในงานเดียว

ความพิเศษของงาน จะรวบรวมผู้ให้บริการเทคโนโลยีดิจิทัลชั้นนำกว่า 350 แบรนด์จาก 7 ประเทศทั่วโลก ได้แก่ ซอฟต์แวร์เพื่อธุรกิจ, ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์, อีคอมเมิร์ซและการตลาดดิจิทัล, ดาต้าและคลาวด์, สมาร์ทโซลูชันและไอโอที, เทคโนโลยี 5G, WEB 3.0 และ AI ที่นำเสนอโดยองค์กรชั้นนำ อาทิ บริษัท จีเอเบิล จำกัด (มหาชน) บริษัท ไอซีอี คอนซัลติ้ง จำกัด และ ICHI media ฯลฯ รวมไปถึงมีโปรแกรมเจรจาธุรกิจ ที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมงานได้ถาม-ตอบ แบบลงลึกเกี่ยวกับโซลูชันที่สนใจ

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีเวทีสัมมนาที่เหล่ากูรู และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีดิจิทัลจะมาร่วมอัปเดต    เทรนด์เทคโนโลยีที่องค์กรธุรกิจห้ามพลาดในปี 2025 เช่น MarTech Trends 2025 Innovations Shaping the Future of Marketing โดย‘คุณจิตติพงศ์ เลิศประดิษฐ์’ นายกสมาคมสมาคมเทคโนโลยีเพื่อการตลาด,  The Future of Personalization: Tailoring Marketing Experiences to Meet Consumer Expectations โดย ‘คุณณัฐพล ม่วงทำ’ ผู้ก่อตั้งและเจ้าของเพจ การตลาดวันละตอน, AI and Leadership Mindset เพื่อสร้าง Innovative Business + Brand โดย ‘คุณรวิศ หาญอุตสาหะ’ ซีอีโอ Srichand & Mission to the Moon และสัมมนาด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ร่วมมือกับกลุ่ม AI เพื่อธุรกิจและสังคม เป็นต้น

คุณฉัตรชัย คุณปิติลักษณ์ รองผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) กล่าวว่า ในยุคปัจจุบันทุกธุรกิจต้องปรับตัวและนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาและเพิ่มศักยภาพการดำเนินงานของตัวเอง ซึ่ง depa มีการส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลผ่านมาตรการสนับสนุนต่างๆ เพื่อยกระดับและพัฒนาธุรกิจไปสู่ความได้เปรียบทางการแข่งขันในรูปแบบใหม่ในระยะยาว โดยงาน DigiTech ASEAN Thailand 2024 & AI Connect 2024 เป็นงานที่จะตอบทุกความต้องการทางเทคโนโลยีของธุรกิจ จึงเป็นงานที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

คุณกาญจนา ลิ้มปัญญาเลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอซีอี คอนซัลติ้ง จำกัด กล่าวถึงความท้าทายของภาคธุรกิจในปี 2025 ว่า Digital Transformation จะมีความเข้มข้นขึ้น และมีการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีที่รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยเฉพาะ AI  ซึ่งองค์กรธุรกิจต้องมีการวางกลยุทธ์ที่ชัดเจน ให้สอดคล้องกับเป้าหมายระยะยาว รวมถึงมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งกับพาร์ทเนอร์ สถาบันวิจัย และคู่แข่ง เพื่อแบ่งปันความรู้และพัฒนาระบบการทำงานด้วย AI ทั่วทั้งอุตสาหกรรมเพื่อเดินหน้าไปด้วยกัน

คุณโชค วิศวโยธิน ผู้ก่อตั้งกลุ่ม AI เพื่อธุรกิจและสังคม กล่าวว่า Digital transformation ที่สำคัญในปี 2025 หนีไม่พ้นการนำเทคโนโลยี AI เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรอย่างจริงจัง ซึ่งต้องเริ่มต้นจากองค์กรต้องมีทีมงานที่มี AI readiness ระดับการเตรียมการและความสามารถในการปรับใช้ บูรณาการ และใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนต้องมีความพร้อมทางข้อมูลที่จะทำให้เลือกโซลูชันได้อย่างเหมาะสมและมีความรับผิดชอบ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและนำไปสู่การสร้างหรือพัฒนาตัวโปรดักท์และบริการใหม่ให้เกิดขึ้นได้

DigiTech ASEAN Thailand และ AI Connect 2024 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-22 พฤศจิกายน 2567 ณ อาคาร 6 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี คาดว่า ตลอดการจัดงานจะมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 6,000 คน โดยผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง https://digitechasean.com/ และลงทะเบียนเข้าร่วมงานฟรีได้ที่ https://evcnx.co/mEQfD

Artificial intelligence (AI) and the robotics industry offer huge opportunities for young-generation Thais as demand for workers in this field is high, technology firm AI and Robotics Ventures (ARV) said on Monday.

Citing its study, the company said demand for workers in the AI and robotics industry has risen by 37% this year, with salaries starting at 30,000-40,000 baht per month.

Technology companies are generating high revenue thanks to demand across industries for digital solutions to improve competitiveness, sustainability, business image and customer confidence, said Thana Slanvetpan, ARV general manager.

“The demand for workers who are experts in AI, robots, data and automation is high as these skills are specific and new to Thailand,” he said.

He added that the education sector is paying attention by adapting curriculums to meet private sector demand.

Thana said ARV is focusing on developing technology to boost the efficiency of many businesses, such as AI for medical services, robots and automation for the energy business, and carbon credit data analysis systems.

“These solutions will encourage people to introduce solutions to close the technology gap and also expand their utilisation of tech,” he said.

The company is collaborating with Chulalongkorn University’s Faculty of Engineering in developing computer engineering and digital technology courses to meet labour market demand.

ARV also holds activities to encourage youngsters who are interested in AI and robotics to work with the company and show that Thailand can match other countries in terms of career opportunities, Thana said.

“Working in the AI and robotics industry is an interesting choice because competition is not high in terms of people, salary and career path,” he said. “It also has low risk compared with other career paths that are being disrupted by technology.”

ARV said it is also seeking to accelerate development of the AI and robotics ecosystem to support human development, as well as collaborating with relevant agencies to boost technology growth in Thailand.

Source: https://www.nationthailand.com/business/tech/40038909

เตรียมตัวให้พร้อม!

DigiTech ASEAN Thailand และ AI Connect 2024   จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-22 พฤศจิกายน 2567 ณ อาคาร 5-6 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี

The Board of Investment (BOI) is speeding up a plan to promote investment in data centres and cloud services in Thailand, in line with global trends and the government’s policy to support digital technology.

Data centres and cloud services are important to support businesses on digital platforms and the country’s plan to promote artificial intelligence, said Narit Therdsteerasukdi, secretary-general of the BOI.

“Data centres and cloud services will serve as key infrastructure for digital business development,” he said.

The BOI said tech companies, including Amazon Web Services (AWS), Google and Microsoft, are interested in investing in Thailand because of the government’s clear policy to support data centre development and attractive investment incentive packages.

The board has approved 37 investment project proposals, including the construction of data centres and cloud service-related businesses. Their investment value totals 98.6 billion baht.

AWS has announced it would spend up to 200 billion baht developing data centres here.

In the first phase, AWS will allocate 25 billion baht building three data centres.

Other companies granted investment incentives from the BoI also promised huge investments in Thailand.

NextDC from Australia announced an investment budget worth 13.7 billion baht, while STT GDC in Singapore pledged 4.5 billion and Evolution Data Centre from Singapore 4 billion.

Supernap (Switch) from the US vowed investment of 3 billion baht, Telehouse from Japan 2.7 billion, and One Asia from Hong Kong 2 billion.

Google and Microsoft also plan to invest in data centre development and both companies are in talks with the government on investment details, said Mr Narit.

The BOI plans to organise new roadshows to further promote foreign investment, especially in S-curve industries.

The authority plans to meet prospective investors in Osaka, Japan next week and the Middle East later this month, he said.

Source: https://www.bangkokpost.com/business/investment/2821131/boi-plan-targets-data-centres-cloud

เตรียมตัวให้พร้อม!

DigiTech ASEAN Thailand และ AI Connect 2024   จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-22 พฤศจิกายน 2567 ณ อาคาร 5-6 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี

Data has never been more valuable or vulnerable in today’s landscape. It is the lifeblood of many organizations today – powering operations, fueling innovation, and creating exceptional experiences.

Along with the emergence of new technologies such as artificial intelligence (AI), machine learning (ML), cloud and more, organizations’ dependency on data has grown significantly in recent years – and so has ransomware’s debilitating impact. True enough, NetApp’s 2024 Cloud Complexity Report revealed that 60% of APAC companies have cited “increased cybersecurity risk” as their top concern in the AI era.

What’s equally worrying is that according to Check Point Software Technologies, Thai organizations faced a staggering 1,892 cyberattacks per week in the latter half of 2023, significantly exceeding the global average of 1,040 weekly attacks.

As the frequency of cyberattacks and the sophistication of ransomware attacks continue to escalate, this calls for an urgent need for organizations to deploy a coordinated, multilayered strategy to reinforce cyber resilience. A crucial part of this strategy is to ensure organizations’ enterprise storage acts as the last line of defence for their most valuable asset – data.

Cyber Resilience – A data-centric approach to protecting and securing data

Cyber resilience goes beyond just blocking attacks, the key aspects lie in the organizations’ recovery capabilities and data protection.

Often, complexity is a key culprit in driving up the cost and time involved in backup and disaster recovery. If an attack breaks through an organization’s first line of defence, the ability to restore recent point-in-time copies of data at a granular level is the key to quickly remediating threats and bringing data and applications back online with minimal disruption.

Five steps to creating a cyber resilience strategy

Here is a five-step approach that organizations can consider when developing their cyber resilience strategy.

• Identify: Take stock of the IT environment and assess current data protection and security processes. This involves classifying and pinpointing the location of all data sets based on their value, along with evaluating access permissions. It is also important to use the right tools for this initial data inventory, as a manual approach can be time-consuming and lead to confusion later in the protection and recovery process. Additionally, identifying and mapping the flow of sensitive data and transactions creates a baseline understanding of user interactions with resources, applications, services, and workloads – a crucial step towards implementing a zero-trust security model.
• Protect: Next, organizations can establish robust data protection measures. This includes encryption, regular backups, infrastructure management, access control, perimeter defences, software updates, and cybersecurity training. This process hinges on defining recovery time objectives and recovering point objectives (RTOs and RPOs) for each data category. In a zero-trust environment, each critical digital element is further isolated with micro-perimeter controls and filters, allowing organizations to malicious users, thwart infection, and prevent data deletion.
• Detect: Detection is vital to staying ahead of malicious agents and other threats. To effectively counter threats in a zero-trust environment, organizations need centralized detection and management. Modern AI and ML tools can be leveraged to identify suspicious activity before it escalates. NetApp, for instance, is one of the first to integrate AI and ML directly into enterprise primary storage to fight ransomware in real-time. Additionally, continuous monitoring with a single view across all data – on-premise and cloud environments – provides a comprehensive picture for swift response and threat prevention.
• Respond: Organizations will need to proactively implement solutions that can help them automatically block malicious user accounts and create immutable recovery points when a threat is detected. This can minimize further damage and help prevent data theft.
• Recover: Downtime can be reduced by applying intelligent forensics to identify the source of the threat, and targeting which data to restore first. By rapidly restoring data, companies can help accelerate operational recovery and bring critical applications back online.

When ransomware comes knocking, every second counts. Organizations need to recognize that ransomware attacks will eventually hit everyone.

What matters most is how organizations can proactively protect, continuously monitor, and automatically take action to protect data in real-time.

Source: https://www.nationthailand.com/business/tech/40038960

By adopting the right approach and leveraging on AI, a company can quickly detect threats in complex hybrid and multi-cloud environments and prevent disruptions to their operations.

Source: https://www.nationthailand.com/business/corporate/40038956

เตรียมตัวให้พร้อม!

DigiTech ASEAN Thailand และ AI Connect 2024   จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-22 พฤศจิกายน 2567 ณ อาคาร 5-6 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี

Predicted year-over-year growth of more than 20% spurred by GenAI-enabled applications at scale

Worldwide end-user spending on public cloud services is forecast to grow 20.4% to a total of $675.4 billion in 2024, up from $561 billion in 2023, according to the latest forecast from Gartner, Inc. This growth is being driven by generative AI (GenAI) and application modernization.

Organizations in Thailand are expected to spend more than US$1.8 billion on public cloud services in 2024, an increase of 30.1% from 2023, according to the latest forecast from Gartner, Inc. Spending on infrastructure-as-a-service (IaaS) will see the largest growth with an increase of 39.6%, followed by platform-as-a-service (PaaS) at 26%.

“The continued growth we expect to see in public cloud spending can be largely attributed to GenAI due to the continued creation of general-purpose foundation models and the ramp up to delivering GenAI-enabled applications at scale,” said Sid Nag, Vice President Analyst at Gartner. “Because of this continued growth, we expect public cloud end-user spending to eclipse the one trillion dollar mark before the end of this decade.”

All segments of the cloud market are expected to see growth in 2024. Infrastructure-as-a-service (IaaS) is forecast to experience the highest end-user spending growth at 25.6%, followed by platform-as-a-service (PaaS) at 20.6%

“IaaS continues at a robust growth rate that is reflective of the GenAI revolution that is underway,” said Nag. “The need for infrastructure to undertake AI model training, inferencing and fine-tuning has only been growing and will continue to grow exponentially and have a direct effect on IaaS consumption.”

While cloud infrastructure and platform services are driving the highest spending growth, SaaS remains the largest segment of the cloud market in end-user spending. SaaS spending is projected to grow 20% to a total of $247.2 billion in 2024.

“SaaS spending is driven by applications being modernized by independent software vendors to run in a SaaS-based consumption model,” said Nag. “Organizations continue to increase their usage of cloud for specific use cases such as AI, machine learning, Internet of Things and big data which is driving this SaaS growth.”

Credit: https://www.nationthailand.com/blogs/business/tech/40038927

เตรียมตัวให้พร้อม!

DigiTech ASEAN Thailand และ AI Connect 2024   จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-22 พฤศจิกายน 2567 ณ อาคาร 5-6 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี

Thailand had the most ransomware attacks in Southeast Asia last year, according to the Russia-based cybersecurity company Kaspersky. The number of local threats, defined as threats from external devices such as USB flash drives, in Thailand ranked third in the region in 2023.

“Thailand has become a major target for threat actors who areincreasingly using different tactics to launch sophisticated attacks on businesses and organisations,” said Benjamas Chuthapiphat, territory manager for Thailand with Kaspersky.

Personal data leaks have made headlines as both commercial and governmental service platforms have been compromised, she said.

A sample of leaked data will be posted in dark-web marketplaces, with the criminals then attempting double or triple extortion for ransom.

Double extortion occurs when cybercriminals exfiltrate data before carrying out the encryption. By exfiltrating the data, the attackers can demand a ransom in exchange for not publicly releasing or selling the data or selling it. Triple extortion adds another layer of pressure on the victim, such as encrypting more of an organisation’s material and demanding money to decrypt it.

Other common threats include phishing and smishing scams to download and install malware on personal and corporate devices.

Phishing involves sending messages purporting to be from reputable sources in order to induce individuals to reveal personal information. Smishing scams involve contact from an unknown number, often claiming to be from a reputable business.

Businesses and organisations in Thailand have also been exposed to critical cyber-attacks, said Ms Benjamas.

Kaspersky said that in 2023 it detected 109,315 ransomware incidents in Thailand, the highest in the region. Indonesia was second with 97,226.

The country had the third largest number (4.7 million) of local threat incidents out of 42 million in the region, behind Vietnam at 17 million and Indonesia at 16.4 million.

Kaspersky also detected 10.2 million RDP (remote desktop protocol) attacks in Thailand out of 61 million in Southeast Asia, ranked third after Vietnam at 25.9 million and Indonesia at 11.7 million.

An RDP attack allows an attacker to gain remote access to the targeted host computer.

Meanwhile, Kaspersky’s business-to-business solutions blocked 25,227 financial phishing attempts in Thailand, ranked at the fifth highest out of total 455,708 attempts in Southeast Asia.

The Philippines faced most blocks at 163,279, followed by Malaysia (124,105), Indonesia (97,465), Vietnam (36,130) and Singapore (9,502), which was the lowest.

Credit: Bangkokpost.com

เตรียมตัวให้พร้อม!

DigiTech ASEAN Thailand และ AI Connect 2024   จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-22 พฤศจิกายน 2567 ณ อาคาร 5-6 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี

Each ministry should have its own super-application to facilitate their operations and enable better public service, in line with the country’s digital transformation, according to Pro Inside, an intelligence system integration service provider.

Ministries that have many departments involved with people’s daily payment of service fees should develop their own super-apps in three years to increase operating efficiency and ensure data security, said Benyapa Chalermwat, chief executive of Pro Inside.

She said super-app development should not be concentrated on a few existing government apps to avoid the impact of an app disruption, adding a few existing apps have the potential to be further developed.

Ms Benyapa said the ministries that should prioritise super-app development are interior and transport because they have many departments involved with people’s daily transactions, including service fee payment by people or enterprises.

“Those ministries should develop their own super-apps and promote public awareness to access operations and services through the apps within three years at the latest,” she said.

Ms Benyapa said development of the super-app scheme could be joined by state banks or financial institutions as well as private banks. She said Pro Inside is studying the business potential of the super-app development projects.

The company is in talks with two large digital gateway providers in China as tentative partners to participate in super-app development projects for the government ministries. While the projects might not be high-value, they would support the country’s digital transformation and complement Pro Inside’s business portfolio, said Ms Benyapa.

In a separate matter, Pro Inside submitted on April 18 a plan to raise funds through an initial public offering (IPO) to the Securities and Exchange Commission.

The company focuses on state agencies and enterprises, offering services related to security systems, big data, artificial intelligence-embedded solutions and the smart healthcare sector.

“Funding via an IPO and becoming a listed company would benefit overall operations, making it easier to bid for larger state projects with a greater market capitalisation and enhanced reliability,” she said.

Pro Inside booked total revenue of 674 million baht with a net profit 87 million in 2021. In 2022 it posted 642 million baht in revenue and net profit of 18 million.

Ms Benyapa said profit declined in 2022 because of organizational restructuring after separating from its parent, SET-listed Sky ICT.
Pro Inside holds a project backlog with combined value of 2 billion baht, she said.

Pro Inside split off from Sky ICT in 2022 to handle all state project bids related to systems integration services.

The company aims to become a major contributor to the parent group’s revenue stream in the future, said Ms Benyapa.

Sky ICT holds a 91% stake in Pro Inside, which would be diluted to less than 60% after an IPO, she said.

Credit: Bangkokpost.com

เตรียมตัวให้พร้อม!

DigiTech ASEAN Thailand และ AI Connect 2024   จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-22 พฤศจิกายน 2567 ณ อาคาร 5-6 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี

The value of the local e-commerce segment this year is expected to reach 700 billion baht, driven by higher business registrations with the Business Development Department.

Auramon Supthaweethum, director-general of the department, said e-commerce business continued to grow in the first quarter, driven by consumers embracing technological solutions in their daily life, especially to facilitate retail purchases.

According to a DataReportal report, there were 63.2 million internet users in
Thailand in January 2024, an 88% penetration rate.

Thais continue to spend more time online, with an average of 7 hours and 58 minutes per day recorded.

Social media is the most popular digital activity, followed by communication and online purchases.

The most used social media platforms by Thais are Facebook, Line and TikTok.

The 2023 survey found 66.9% of Thai internet users purchased a product or service online as part of their weekly e-commerce activities.

E-commerce business registrations have grown significantly over the past six years (2018-2023), both in the number of establishments and the value of registered capital.

In 2018, there were 310 establishments with registered capital of 545 million baht.

This year 7,393 e-commerce businesses have registered with registered capital of 43.7 billion baht, up from 1,713 businesses with capital of 2.27 billion baht in 2023, according to the Business Development Department.

The majority are in Bangkok (35.5%), with some in Nonthaburi (7.22%), Samut Prakan (5.22%), Pathum Thani (5.22%) and Chiang Mai (4.31%), mostly concentrated among small and medium-sized enterprises.

Expansion in the e-commerce industry has created demand for substantial changes in Thailand’s supply chain and logistics operations.

Several courier companies have launched cost-effective and high-quality logistics services, emphasising last-mile delivery and reporting growth of 4.50%, according to the department.

E-commerce businesses are likely to demand more warehouse space for express delivery services as the sector’s significance continues to grow, said

Mrs Auramon. Many companies have established central warehouses, along with smaller drop-off and pickup points across the country, to cope with the rise in demand.

E-commerce and online retail have increased demand for sustainable packaging solutions, growing 9.51%, she said. With the increased volume of shipped products, companies want to focus on minimising packaging waste, opting for recycled materials and utilising packaging designs that reduce excess materials, said Mrs Auramon.

She said digital advertising grew 10% in terms of registrations, a segment that uses data analytics to analyse consumer behaviour in social media. Thailand’s e-commerce market value is expected to reach nearly 700 billion baht in 2024, rising to 750 billion next year and up from 634 billion in 2023, said Mrs Auramon.

ที่มา: Bangkokpost.com

เตรียมตัวให้พร้อม!

DigiTech ASEAN Thailand และ AI Connect 2024   จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-22 พฤศจิกายน 2567 ณ อาคาร 5-6 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี

Global managed service provider Kyndryl believes the demand for information technology (IT) services in Thailand is being driven by factors such as digital transformation, artificial intelligence (AI), smart cloud, and the modernisation of IT infrastructure. Kyndryl was born out of the spin-off of IBM’s infrastructure service business in 2021.

Kittipong Asawapichayon, the managing director of Kyndryl Thailand and Vietnam spoke in glowing terms about digital transformation in Thailand.

“Organisations are moving towards digital transformation to innovate, increase competition, and cut costs at this challenging time.”

Kittipong believes that many Thai companies may seek to modernise their IT infrastructure, leading to opportunities for Kyndryl’s services in hybrid cloud solutions, infrastructure management, and automation.

Statista, a global data and business intelligence platform, anticipates the IT service market in Thailand to grow by 7.28% during 2024-2028, resulting in a market volume of US$3.1 billion in 2028. The revenue in the IT services market is expected to reach US$2.34 billion in 2024, with IT outsourcing projected to dominate the market at a value of US$930 million.

Post spin-off from IBM, Kyndryl has expanded its customer base from banking to other sectors including oil, gas, and telecom businesses. The company’s split from IBM has more than doubled its addressable market from US$240 billion pre-spin-off to US$510 billion by 2024. The company’s major partners currently include Amazon Web Services, Microsoft Azure, and Google Cloud.

IT trends

Kyndryl forecasts major IT trends in 2024, one of which is the role of new ways of working in driving culture, technology, and workplace transformation. AI and cloud technologies will play a significant role but must be integrated with human-centred strategies to attract and retain top talent. The company predicts that data governance will emerge as a critical factor in AI adoption.

Kyndryl also emphasises the importance of a meticulous data strategy for extracting maximum insights from an AI system. The company also foresees the importance of infrastructure-as-a-code (IaC) in IT development, as organisations start modernising their digital infrastructure. The IaC automates the provisioning of IT infrastructure by using high-level descriptive coding language.

Kittipong anticipates that the computer mainframe will remain relevant as part of a hybrid environment and the enterprises will continue to adapt and grow, reinventing itself to deliver value in nearly every business environment.

The company also warns of an increase in the number and sophistication of cyber-attacks, making it important for enterprises to lower the barriers and expand access to cybersecurity training and hiring.

Sustainable technology will also be a priority, as enterprises will see it as important to reduce their carbon footprint, reported Bangkok Post

ที่มา : https://thethaiger.com/

เตรียมตัวให้พร้อม!

DigiTech ASEAN Thailand และ AI Connect 2024   จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-22 พฤศจิกายน 2567 ณ อาคาร 5-6 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี